กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ภายใต้อำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม.,
พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์, พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส, พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์, พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล, พ.ต.อ.ไตรรงค์ ชัยชนะ ประจำ (สบ 5) ปฏิบัติราชการ บก. ปคม. พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์, พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รอง ผบก.ปคม., ว่าที่ พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ ผกก.1 บก.ปคม., พ.ต.ท.นิติ ด่านไพบูลย์, พ.ต.ท.ชัยชนะ สุริยวงค์ , พ.ต.ท.เอกรณการ นาคนิยม รอง ผกก.1 บก.ปคม.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.สุรศักดิ์ หญีตบึ้ง สว.กก.1 บก.ปคม., ร.ต.อ.พอช นกพลับ
รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปคม.

ร่วมกันจับกุม นายสุเทพฯ หรือนนท์ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดนครนายก
ที่ จ.98/2566 ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2566 ในความผิดฐาน “กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม”
สถานที่จับกุม บริเวณหน้าห้องเช่า ถ.วรรณศร ต.พรหมณี อ.เมือง จ.นครนายก

สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปลายปี 2565 นายสุเทพฯ ฉายา “นนท์โอรส ชลบุรี” ผู้ต้องหา
ได้แอบชอบ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) เด็กหญิงวัย 14 ปี ซึ่งได้พักอาศัยอยู่บริเวณหมู่บ้านเดียวกับผู้ต้องหาในพื้นที่ ต.บ้านใหญ่ อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก โดย ด.ญ.เอ ได้พักอาศัยอยู่กับย่า นายสุเทพฯ ได้แอบเฝ้าและคอยติดตาม ด.ญ.เอ เรื่อยมา

จนกระทั่งวันเกิดเหตุขณะที่ย่าของ ด.ญ.เอ ไปทำธุระนอกบ้าน นายสุเทพฯ ได้อาศัยช่วงเวลาดังกล่าว แอบย่องเข้ามาในบ้านของ ด.ญ. เอ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ และในขณะนั้น มีเพียง ด.ญ.เอ อยู่บ้านเพียงลำพัง นายสุเทพฯ ได้ลงมือกระทำชำเรา ด.ญ.เอ และในขณะที่ผู้ต้องหากำลังก่อเหตุ

ย่าของ ด.ญ.เอ ได้กลับมาบ้านพอดี นายสุเทพฯ จึงได้หลบหนีออกไปทางด้านหลังบ้าน โดย น.ส.เอ ได้แจ้งกับย่าว่า ถูกนายสุเทพ กระทำชำเรา และนายสุเทพฯ สั่งห้ามนำเรื่องดังกล่าวไปบอกย่า หลังจากที่ย่า ของ ด.ญ.เอ ทราบเรื่อง จึงไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครนายก

ต่อมาพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลจังหวัดนครนายก ออกหมายจับผู้ต้องหาไว้เจ้าพนักงานตำรวจฝ่ายสืบสวนของ กก.1 บก.ปคม. สืบสวนพฤติกรรมของนายสุเทพฯ พบว่านายสุเทพฯ เป็นคนพื้นเพจังหวัดชลบุรี ตั้งตนในฉายา “นนท์โอรส ชลบุรี” มีพฤติกรรมชอบโพสต์อาวุธปืน จึงได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมนายสุเทพฯ มาโดยตลอด โดยนายสุเทพฯ ได้หลบหนี ไปทำงานในจังหวัดต่าง ๆ หลายจังหวัด ซึ่งนายสุเทพฯ ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ไปพร้อมแฟนสาว และย้ายที่พักอาศัยอยู่ตามจังหวัดต่างๆเป็นประจำ เพื่อหลบหนีจากจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าจะเป็น อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม,อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี, อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

จนกระทั่งล่าสุดเจ้าหน้าตำรวจฝ่ายสืบสวน ได้สืบทราบว่า นายสุเทพฯ ได้กลับมากบดานอยู่ในพื้นที่ จ.นครนายกอีกครั้ง โดยเช่าห้องพักในพื้นที่ ถ.วรรณศร ต.พรหมณี อ.เมือง จ.นครนายก
เจ้าพนักงานตำรวจ กก.1 บก.ปคม. จึงได้วางแผนเดินทางไปเฝ้ารอสังเกตการณ์เพื่อทำการจับกุม ได้พบ นายสุเทพฯ เดินอยู่บริเวณหน้าห้องเช่า จึงแสดงตัวก่อนเข้าจับกุม พร้อมทั้งได้แสดงหมายจับให้ทราบ รวมถึงแจ้งสิทธิตามกฎหมาย จากนั้นได้ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองนครนายก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพ