ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด พร้อมนายแทนคุณ จิตต์อิสระ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้บริหาร หรือ บอส ของบริษัทขายตรงยักษ์ใหญ่ที่มีกระแสข่าวอยู่ในขณะนี้ ได้แก่ บอสพอล ผู้บริหารใหญ่ , บอสกันต์ , บอสปีเตอร์ , บอสหมอ , บอสแซม , บอสมิน รวมทั้งสิ้น 6 คน ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน , ความผิดตาม พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ , และ พ.ร.บ.ฟอกเงิน ที่ล่าสุดมีผู้เสียหายประสานมากว่า 700 คนแล้ว ทนายษิทราบอกว่า พฤติการณ์ของบริษัทดังกล่าวไม่ได้ส่งสินค้าให้กับผู้ที่ลงทุนจริง บางคนลงทุน 250,000 บาท แต่เมื่อขอเบิกสินค้า กลับอ้างว่าขาดสต็อก หรือส่งสินค้าหมดอายุให้ และเน้นให้หาคนมาสมัครคอร์สเรียนและสมัครเป็นลูกข่ายแทน เพื่อให้ได้ส่วนแบ่ง 10,000 บาทจากเงินลงทุน ที่อ้างว่าขายเซรั่มได้ 1 ล้านหลอดนั้น ตนเองท้าเลยว่าหากมีผู้บริโภคคนใดที่ซื้อสินค้าดังกล่าว ใช้แล้วซื้อต่อ สามารถติดต่อมาที่ตนเองได้ เพราะที่สอบถามมา ไม่มีใครพบเห็นหรือรู้จักสินค้าชิ้นนี้ในท้องตลาด ดังนั้นพฤติการณ์นี้จึงเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ชัดเจน ส่วนบอสดาราอ้างว่าไม่มีส่วนในการบริหาร เป็นเพียงพรีเซนเตอร์ และบางคนก็อ้างว่าต้องรับตำแหน่งผู้บริหารมาเพราะความเกรงใจนั้น ก็ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ เพราะผู้เสียหายทั้งหมดยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า หลงเชื่อเข้าร่วมลงทุนเพราะเชื่อมั่นในตัวดาราเหล่านี้ โดยเฉพาะบอสกันต์ พิธีกรชื่อดัง บอสแซม บอสมิน ดาราเบอร์ต้นของเมืองไทย และยิ่งน่าเชื่อถือไปอีกเมื่อมีบอสที่อ้างตัวว่าเป็น “หมอ” รวมอยู่ด้วย โดยทนายษิทรายังย้ำชัดว่า “คดีนี้มีบอสติดคุกแน่นอนอย่างน้อย 4 คน” นอกจากนี้ อี้ แทนคุณ ยังยืนยันด้วยว่า บอสหญิง ชื่อย่อ ป. ที่วางแผนระบบนี้ รได้นัดประชุมร่วมกับกลุ่มบอสดารา เพื่อให้บอสดาราทำตามระบบ จึงเป็นไปไม่ได้ที่กลุ่มบอสดาราจะอ้างว่าไม่รู้เห็นเรื่องกระบวนการขาย และในกลุ่มบอสดาราจะแบ่งเป็น 4 กลุ่มหลัก คือบอสดาราระดับผู้บริหาร ที่จะได้ส่วนแบ่งไม่ต่ำกว่า 10% จากผลประโยชน์ทั้งหมด และยังได้ทรัพย์สินตอบแทนต่างๆ เช่น รถ นาฬิกาหรู ทั้งที่บอสบางคนมูลค่าทรัพย์สินที่นำมาโชว์กว่า 150 ล้านบาท ไม่สอดคล้องกับอาชีพที่ทำ รวมถึงบอสบางคนยังพบเส้นทางการเงินเชื่อมไปยังบุคคลใกล้ชิด เพื่อเลี่ยงการถูกมองว่าได้รับผลประโยชน์จากบริษัทนี้ด้วย กลุ่มที่ 2 คือกลุ่มดาราพรีเซ็นเตอร์ ที่ถูกจ้างไปออกงานอีเวนต์และทำกิจกรรมต่างๆ กลุ่มที่ 3 คือดาราและอินฟลูเอนเซอร์ที่ช่วยโพสต์หรือแชร์ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นครั้งคราว และกลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มผู้มีชื่อเสียง ที่ร่วมลงทุน และใช้ความน่าเชื่อถือของตนเองไปทำกิจกรรม โดยหวังว่าจะได้ผลประโยชน์ตอบแทน ซึ่งกลุ่มนี้ก็เป็นหนึ่งในผู้เสียหายเช่นกัน
ติดต่อกองบรรณาธิการ
email : sangjan26th@gmail.com
ติดต่อลงโฆษณา
sangjan26th@gmail.com
© 2024 แสงจันทร์ 26. All Rights Reserved.