เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 1 ส.ค. ที่ ห้องประชุมชั้น 19 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) อาคารพิทักษ์สันติ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. พ.ต.อ.รพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม.พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ ผกก.1 บก.ปคม., พ.ต.ท.ชัยชนะ สุริยวงค์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคม. พ.ต.ท.บุรินทร์ กะปิตถา, พ.ต.ท.สุรศักดิ์ หญีตบึ้ง พ.ต.ต.พศวัต ศรีสุขโข สว.กก.1 บก.ปคม.

ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุม พระครูปลัดปรเมษฐ์ อายุ 32 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 3493/2567 ลงวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลัง ประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าคนเป็นบุคคลอื่น, กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้เด็กนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น, ข่มขืนกระทำชำเราการกระทำอนาจารซึ่งกระทำต่อเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี เป็นการกระทำแก่ผู้สืบสันดาน ศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแลผู้อยู่ในความควบคุมตามหน้าที่ราชการหรือผู้อยู่ในความปกครอง ในความพิทักษ์หรือความอนุบาล, บังคับ ขู่เข็ญให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด หลังตามจับได้บริเวณภายในวัดพุทธมงคลนิมิต ถนนพุทธมงคล ต.ปากน้ำโพ อ.เมืองนครสวรรค์�
พล.ต.ต.ศารุติ เผยว่า สืบเนื่องจากตามนโยบายของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ที่ได้สั่งการให้ตำรวจบก.ปคม. กวดขันจับกุมผู้ที่ละเมิดอนาจารและกระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี อย่างต่อเนื่อง ต่อมาตำรวจกก.1.บก.ปคม.ได้รับเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบพระครูปลัดปรเมษฐ์ เกษาพร สังกัดวัดพุทธนิมิต จ.นครสวรรค์ ประพฤติตนไม่เหมาะสม หลังรับเรื่องได้จัดกำลังลงพื้นที่สืบสวนข้อเท็จจริง

จนทราบว่า เมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2559 ถึงเดือนกรกฎาคม 2561 พระครูปลัดปรเมษฐ์ ได้ล่วงละเมิดทางเพศสามเณร อายุ11-12 ปี ที่อยู่ในปกครอง ขณะที่ยังจำพรรษาอยู่ที่วัดธาตุทอง กทม. ซึ่งพระครูปลัดปรเมษฐ์ นั้น เป็นพระพี่เลี้ยงหรือพระปกครองกลุ่มสามเณรที่ผู้ปกครองนำมาบวชเรียน แต่กลับล่วงละเมิดทางเพศสามเณรที่อยู่ในความดูแลปกครอง 5 ราย อย่างต่อเนื่องทั้งกระทำอนาจารและกระทำชำเรา

ผบก.ปคม.กล่าวต่อว่า สำหรับเหยื่อเด็กทั้งหมด จากการสอบถามให้การสอดคล้องกันว่าพระครูปลัดปรเมษฐ์ มักจะเรียกสามเณรผ่านลำโพงของกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ในห้องนอน หรือให้สามเณรที่อยู่ในปกครองไปเรียกสามเณรคนอื่นๆ จากห้องพักหรือสถานที่ต่างๆ ให้เข้าไปหาที่ห้องพักของพระครูปลัดฯ เพื่อท่องบทสวดมนต์ จากนั้นจะล่อลวงเหยื่อที่ยังรู้เท่าไม่ถึงการณ์ด้วยวิธีการต่างๆ กัน เช่น ให้บีบนวดแขนขา เมื่อสบโอกาสจะล่วงละเมิดทางเพศจนสำเร็จความใคร่อยู่เป็นประจำ

พ.ต.อ.ก่อเกีบรติ กล่าวเพิ่มว่า จากการเปิดเผยของเหยื่อบางรายทราบว่า โดนล่วงละเมิดต่อเนื่องแทบทุกสัปดาห์ต่อเนื่องนานนับปี รวมทั้งเหยื่อทุกรายที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ จะถูกพระครูปลัดปรเมษฐ์ ข่มขู่ว่าไม่ให้บอกผู้ปกครองหรือบอกพระรูปอื่นๆ โดยเด็ดขาด

ผกก.1.บก.ปคม.กล่าวต่ออีกว่า ต่อมาพนักงานสอบสวน กก.1.บก.ปคม. ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับ รวมทั้งตรวจสอบพบว่า หลังจากเมื่อปี 2563 พระครูปลัดปรเมษฐ์ ได้มาเป็นพระลูกวัด อาศัยอยู่ที่กุฏิญาณวิศิษฐ์ วัดพุทธมงคลนิมิต ต.ปากน้ำโพ อ.เมืองนครสวรรค์ จึงได้วางแผนไปเฝ้ารอสังเกตการณ์ จนพบพระครูปลัดปรเมษฐ์ อยู่ที่กุฏิดังกล่าว จึงได้แสดงตัวจับกุมได้ดังกล่าว ขณะนอนอยู่กับเด็กชายอายุ 13 ปี อีก 1 ราย ซึ่งเด็กรายนี้ยังยอมรับว่าเคยถูกพระครูปลัดฯ ล่วงละเมิดทางเพศถึง 4-5 ครั้งด้วย

เบื้องต้นจากการสอบสวนพระครูปลัดปรเมษฐ์ ได้ให้การปฏเสธ นำตัวส่ง กก.1.บก.ปคม.ดำเนินคดีพร้อมขยายผลหาเหยื่อเด็กผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมอีกด้วย ขณะนี้พบเด็กผู้เสียหายแล้ว 6 ราย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เขื่อว่าน่าจะยังมีเด็กที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ แต่ไม่กล้าบอกผู้ปกครองเพราะกลัวคำขู่ของพระครูปลัดฯ อีกหลายรายด้วย

พล.ต.ต.ศารุติ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้จะค้องตรวจสอบดูว่า เหตุการณ์ที่พระครูปลัด ที่กระทำชำเราเด็ก มีการนำภาพหรือคลิปไปเผยแพร่ทางสื่อโซเชี่ยล จะต้องถูกดำเนินคดีเพิ่มเติดอีกด้วย ทั้งนี้ขอประชาสัมพันธ์แจ้งไปยังผู้ปกครองที่มีบุตรหลานที่อาจเข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการถูกล่อลวงเพื่อล่วงละเมิดทางเพศในลักษณะเดียวกันนี้ สามารถมาร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาได้ หรือกรณีประชาชนท่านใดพบเบาะแสการกระทำความผิดในลักษณะคล้ายคลึงกันขอให้แจ้งมายัง บก.ปคม. ผ่านหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1191 ตลอด 24 ชั่วโมง