สืบเนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งให้ระดมกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 5 - 14 ก.ย. 67 (รวม 10 วัน) บช.สอท. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์  วัฒน์นครบัญชา  ผบช.สอท. พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ,พ.ต.อ.คัมภีร์ พรหมสนธิ รอง ผบก.สอท.3 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดตามคำสั่งดังกล่าว โดย กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้ทำการสืบสวนพบผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบทางสื่อสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊กชื่อ “เงินด่วนขอนแก่น” มีพฤติการณ์ ชักชวนให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นมาทำการกู้เงินกับเพจดังกล่าว

ต่อมา พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3, พ.ต.ท.ชนทัช วุฒิภัทรโสภณ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ, พ.ต.ท.ธนัช ธนาบุญประกอบ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3,
พ.ต.ท.วีระศักดิ์ แก้วเนียม รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3, จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวน นำโดย
พ.ต.ท.อโนทัย ดียิ่ง สว.กก.4 ปรก.ฯ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานจนกระทั่งสามารถขอศาลออกหมายค้นบ้านเป้าหมาย และในวันที่ 12 ก.ย.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ร่วมกันนำกำลังพร้อมหมายค้นศาลแขวงขอนแก่นที่ 66/2567 ลงวันที่ 11 ก.ย.67 เข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 14 ต.เมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น พบ น.ส.สิริยาภรณ์ ฯ อายุ 36 ปี และ นายวาทินฯ อายุ 32 ปี แสดงตัวเป็นผู้ที่ครอบครองบ้านหลังกล่าว โดยทั้งคู่เป็นสามี-ภรรยากัน

ผลการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว พบบัตรแนะนำสินเชื่อเงินกู้ รับปรึกษาปัญหาเรื่องเงิน, โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง ใช้ในการโพสต์เฟซบุ๊ก ชักชวนประชาชนให้มากู้ยืมเงิน และใช้ในการโทรติดต่อกับลูกค้าที่จะมากู้ยืมเงิน และหนังสือสัญญาเงินกู้ จำนวน 2 เล่ม โดย น.ส.สิริยาภรณ์ฯ จะมีหน้าที่คอยโพสต์เฟซบุ๊กชักชวนหาลูกค้ามากู้เงิน ส่วนนายวาทินฯ มีหน้าที่แจกบัตรแนะนำสินเชื่อ และตามเก็บเงินกับผู้ที่มาขอกู้เงิน

โดยทั้งสองคนได้รับว่าไม่ได้ประกอบอาชีพอื่นแต่อย่างใดและได้ร่วมกันปล่อยเงินกู้มาตั้งแต่เดือน มี.ค. 2566  กลุ่มลูกค้าส่วนมากจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าที่หาเช้ากินค่ำ หรือเจ้าของธุรกิจที่มีหน้าร้านชัดเจน โดยจะปล่อยกู้ขั้นต่ำ จำนวน 1,000 บาท และเคยปล่อยกู้มากที่สุดถึงจำนวน 100,000 บาท และจะคิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อการกู้เงินจำนวน 1 ครั้ง มีกำหนดไม่เกิน 24 วัน และจะเฉลี่ยเก็บเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยทุกวันจนกว่าจะครบ

ก่อนหน้านี้นายวาทินฯ ได้เคยอยู่ในแก๊งเงินกู้รายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดชัยนาท ต่อมาได้รู้ถึงวิธีดำเนินการและช่องทางในการหาเงินด้วยวิธีการปล่อยเงินกู้นอกระบบ จึงได้ผันตัวมาเป็นผู้ปล่อยเงินกู้เสียเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามจับกุมต่อไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้เป็นนิติบุคคล และไม่ได้รับอนุญาต“ พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป