ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.ปรท. รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.ชาคริต มงคลศรี รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์ รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ รอง ผกก.2 บก.ทล.

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.พิทยา ธนาวุฒิ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.,
ร.ต.อ.ชาตรี บุญอยู่ รอง สว. (ป.) ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., ร.ต.อ.ปัญญาวุฒิ ทองคำ
รอง สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., ด.ต.สายชล ตั้งวงศ์ ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.,
ด.ต.พัทธนันท์ แดงกระจ่าง ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.
ได้จับกุม นายสุพัฒนาฯ อายุ 50 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย เพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “เป็นผู้ขับขี่รถและเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1
(เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต”

พร้อมด้วยของกลาง
1. ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) จำนวนรวม 2,801 เม็ด

สถานที่จับกุม ริมถนนเพชรเกษม กม.483 – 484 (ขาล่องใต้) ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร
สืบเนื่องจากขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพรขับรถวิทยุตรวจการณ์ออกตรวจพื้นที่ภายในเขตพื้นที่รับผิดชอบจนมาถึงถนนเพชรเกษมบริเวณ กม.483 – 484 (ขาล่องใต้)
ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ได้พบรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลขับวิ่งแซงมาในช่องทางด้านขวามือของรถเจ้าหน้าที่ด้วยความเร็ว โดยรถคันดังกล่าวไม่ได้เปิดไฟวิ่งและไฟท้ายของรถขาด

เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบข้อมูลหมายเลขทะเบียนของรถคันดังกล่าว ปรากฏว่า ไม่พบข้อมูลของรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำรถไล่ติดตามเพื่อที่จะทำการขอตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบนายสุพัฒนาฯ อายุ 50 ปีเป็นผู้ขับขี่ และพบยาบ้าจำนวน 1 เม็ด ตกอยู่ที่พื้นวางเท้าด้านซ้ายฝั่งเบาะที่นั่งผู้โดยสาร หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจค้นเพิ่มเติมอย่างละเอียด พบมียาบ้าซุกซ่อนอยู่อีก 2,800 เม็ด

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำผู้ต้องหาไปทำการทดสอบสารเสพติดเบื้องต้นพบว่า ปัสสาวะมีผลเป็นบวก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดของกลางและนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน
สภ.เมืองชุมพร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า
ยาบ้าดังกล่าว เป็นของตนเองโดยเดินทางไปรับมาจาก อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ และกำลังจะเดินทางกลับบ้านที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเสียก่อน และให้การยอมรับว่า ได้เสพยาเสพติดมาก่อนหน้านี้จริง จำนวน 3 เม็ด