เวลา 09.30.น. วันที่ 23 ธ.ค. 67 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง น.ส.นลิน โรจนวัทธิกร ผู้ก่อตั้งเพจห้วยแถลง และทนายความ รับมอบอำนาจจาก น.ส.น้อง(นามสมมุติ) ผู้เสียหายซึ่งเป็นนักธุรกิจสาวรายหนึ่ง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ตำรวจกองปราบปรามเพิ่มเติม หลังจากเมื่อ 10 ก.ค.67 ได้พากลุ่มผู้ค้าสลากในพื้นที่ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา รวมทั้งแม่ชีและผู้เสียหายที่เข้าไปปฏิบัติธรรมกว่า 10 ราย โดยมิจฉาชีพรายนี้หลอกขายโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จนสูญเงินกว่า 70 ล้านบาทแจ้งตำรวจกองปราบฯ
น.ส.นลิน กล่าวว่า หลังที่ตนพาผู้เสียหายมาแจ้งกองปราบฯ แล้ว พบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุยังก่อเหตุโพสต์ภาพกับสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวนมากในสื่อโซเชียลมีเดีย อ้างว่าเป็นตัวแทนจำหน่ายมีโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาลราคาถูกพิเศษกว่าท้องตลาดทั่วไป อีกทั้งกล่าวอ้างกับผู้สนใจว่า มีกลุ่มลูกค้าที่สามารถนำลอตเตอรี่ไปขายปล่อยต่อในราคาใบละ 92 บาท โดยผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องขาย รอรับเงินปันผล พร้อมแอบอ้างว่า รู้จักกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ส่งผลให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อเข้าร่วมลงทุนทั่วประเทศ แต่เนื่องจากสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าวไม่มีอยู่จริง ทำให้ผู้เสียหายสูญเงินแจ้งความกับพนักงานสอบสวนในหลายท้องที่ ทั้งที่ บก.ป.และ บช.สอท.ก่อนจะแกะรอยและทำการจับกุมได้เมื่อ 3 ธ.ค.67 ตำรวจไซเบอร์ นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รรท. ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการจับกุม น.ส.กัณภาธิฌาณัศฐ์ หรือนุ่น อายุ 45 ปี พร้อมพวกอีก 4 คน ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดตาม ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 โดยจับกุมได้ในพื้นที่ย่านลาดกระบัง กทม.เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ซึ่งมีมูลค่าความเสียหาย 400 ล้านบาท
น.ส.นลิน กล่าวว่า เมื่อปี 2565 น.ส.น้อง ถูก น.ส.กัณภาธิฌาณัศฐ์ หรือ นุ่น หลอกให้ซื้อสลากโดยแอบอ้างว่าเธอเป็นสมาชิกพรรคการเมืองหนึ่ง รู้จักกับนักการเมืองและนายทหารชั้นผู้ใหญ่ จึงได้โควต้าสลากมาจำนวนมาก หากซื้อไว้เป็นกล่องๆ ละ 500 ใบจะมีกำไรไม่ต่ำกว่ากล่องละ 1,500 บาทต่องวด
นอกจากนี้ นส.กัณภาธิฌาณัศฐ์ หรือนุ่น ยังหลอกผู้เสียหายให้ซื้อนาฬิกาหรูเรือนละหลายแสนบาทเพื่อนำไปขายต่อ และยังหลอกให้ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ โดยอ้างว่าตัวเองเป็นวิศวกรออกแบบก่อสร้างด้วย
ช่วงแรกได้กำไร นส.น้อง จึงหลงเชื่อ เพิ่มเงินลงทุนเป็นจำนวนเงินรวม 29 ล้านบาท ต่อมาภายหลังไม่ได้รับเงินผลกำไรจากการลงทุน จึงได้ติดต่อทวงถามเงินลงทุนคืน แต่ น.ส.กัณภาธิฌาณัศฐ์ หรือนุ่น ก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา ก่อนจะทราบข่าวว่า น.ส.กัณภาธิฌาณัศฐ์ หรือนุ่น ถูกตำรวจไซเบอร์จับพร้อมพวกในคดีที่มีพฤติกรรม การกระทำความผิดคล้ายคลึงกัน
น.ส.นลิน กล่าว จากการสืบทราบ น.ส.กัณภาธิฌาณัศฐ์ หรือนุ่น จะทำผิดลักษณะเดียวกันมาหลายปี ก่อคดีหลายท้องที่ แต่ยังลอยนวลเป็นภัยสังคม ทำให้ผู้เสียหายหมดเนื้อหมดตัว ต้องใช้หนี้บัตรเครดิต และเงินยืมญาติพี่น้อง จึงประสงค์จะให้กองปราบฯ รับทำคดีของตนรวมกับผู้เสียหายอื่นที่เข้าแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองบัญชาการตำรวจ สอบสวนสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) แจ้งว่า น.ส.กัณภาธิฌาณัศฐ์ หรือนุ่น ผู้ต้องหา ร่วมกับพวกรวม 4 คน ที่ถูกตำรวจไซเบอร์ จับกุมเมื่อ 3 ธ.ค.67 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดตาม ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 นั้น ขณะนี้ทุกคนถูกฝากขังอยู่ในเรือนจำทั้งหมด
น.ส.นลิน แจ้งว่ารู้สึกสบายใจขึ้นบ้าง และจะติดตามไปคัดค้านการประกันตัวต่อไป
ติดต่อกองบรรณาธิการ
email : sangjan26th@gmail.com
ติดต่อลงโฆษณา
sangjan26th@gmail.com
© 2024 แสงจันทร์ 26. All Rights Reserved.